เมนู

ลำดับแห่งขันธ์ ธาตุ และอายตนะทั้งหลาย
ที่ยังตัดไม่ขาด หมุนเวียนไปอยู่ ท่านเรียกว่า สงสาร

ดังนี้
สิ้นไปแล้ว โดยพิเศษ เพราะฉะนั้น ภพใหม่จึงไม่มีในบัดนี้. พึงวกกลับมา
พูดว่า เพราะเหตุที่ภพใหม่ไม่มีต่อไป ฉะนั้น สงสาร คือ ชาติจึงสิ้นไป และ
ภพใหม่ไม่มี เพราะภพทั้งปวงถูกถอนขึ้นแล้ว ดังนี้. อีกอย่างหนึ่ง ประกอบ
ความว่า สงสารคือชาติสิ้นไปแล้ว เพราะเหตุนั่นแล ภพใหม่จึงไม่มีในบัดนี้ .
จบอรรถกถาเอกธัมมสวนียเถรคาถา

8. เอกุทานิยเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระเอกุทานิยเถระ


[205] ได้ยินว่า พระเอกุทานิยเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่ภิกษุ ผู้มีจิตมั่น
ไม่ประมาท เป็นมุนีศึกษาอยู่ในคลองแห่งโมไนย
ผู้คงที่ ผู้สงบระงับ มีสติทุกเมื่อ.

อรรถกถาเอกุทานิยเถรคาถา


คาถาของท่านพระเอกุทานิยเถระเริ่มต้นว่า อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ ก็มีอธิการ อันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้น ๆ เกิดเป็นยักษ์ผู้
เสนาบดี ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า อัตถทัสสี
เมื่อพระศาสดาเสด็จปรินิพพานแล้ว ได้ถึงความเศร้าโศกปริเทวนาการว่า
เราไม่มีลาภหนอ เราหาโอกาสได้ยากหนอ เพราะในเวลาที่พระศาสดายังทรง
พระชนม์อยู่ เราไม่ได้กระทำบุญมีทานเป็นต้นไว้.
ครั้งนั้น สาวกของพระศาสดา นามว่า สาคระ บรรเทาความโศก
นั้น แนะนำให้บูชาพระสถูปของพระศาสดา. เขาบูชาพระสถูปอยู่ตลอด 5 ปี
จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ท่องเที่ยวอยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย นั่นแหละ
ด้วยบุญนั้น เกิดในเรือนแห่งตระกูล ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรง
พระนามว่า กัสสปะ ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว เข้าไปสู่สำนักของพระศาสดา ตาม
กาลเวลา.
ก็ในสมัยนั้น พระศาสดา ทรงโอวาทพระสาวกทั้งหลาย เนือง ๆ
ด้วยคาถาว่า อธิเจตโส. เขาได้ฟังโอวาทนั้น เกิดศรัทธาบวชแล้ว ก็แหละครั้น
บวชแล้ว ร่ายพระคาถานั้นนั่นแหละบ่อย ๆ. ท่านบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ใน
พระโอวาทนั้น ตลอดสองหมื่นปี ไม่อาจจะยังคุณพิเศษให้เกิดขึ้นได้ เพราะ
ญาณยังไม่แก่กล้า. ก็ท่านจุติจากภพนั้นแล้ว บังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยว
ไป ๆ มา ๆ อยู่ในสุคติภพนั่นแหละ แล้วเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ ผู้สมบูรณ์